โรงงานรับผลิตอายแชร์โดว์ พร้อมดีลที่ดีที่สุด

1. อายแชโดว์แบบฝุ่นอัดแข็ง (Powder Eyeshadow)

เป็นประเภทอาแชโดว์ที่เป็นที่นิยมและเห็นได้ตามท้องตลาด เนื่องจากใช้ง่าย สะดวก และไม่ยุ่งยาก แต่มีข้อเสียคือมักไม่ค่อยติดทนนาน และหากผลิตไม่ได้มาตรฐานอาจได้สีที่ไม่คมชัด

2. อายแชโดว์แบบครีม (Cream Eyeshadow)

มีลักษณะเป็นเนื้อครีมที่ค่อนข้างหนา แต่ให้สีที่ชัดเจนบางแบรนด์สามารถกันน้ำ สามารถนำมาทำเป็นอายแชโดว์เบสได้

3. อายแชโดว์แบบน้ำ (Liquid Eyeshadow)

มีลักษณะเป็นเนื้อน้ำเมื่อทาแล้วจะแห้ง ส่วนมักมากนิยมทำออกมาเป็นหลอดจุ่มมีพู่กันเหมือนลิปกลอส มีสีที่ค่อนข้างติดทนนาน

4. อายแชโดว์แบบผงพิกเมนต์ (Pigments Eyeshadow)

อายแชโดว์ที่มาในรูปแบบฝุ่นหรือผง ส่วนใหญ่จะเป็นชิมเมอร์ หรือกลิตเตอร์ที่ให้ความแวววาว ช่วยให้ดูโดดเด่นและแฟนซี

5. อายแชโดว์แบบแท่ง (Crayon Eyeshadow)

เป็นอายแชโดว์เนื้อครีมที่มาในรูปแบบแท่งเพื่อให้ใช้งานได้ง่ายขึ้น เมื่อปาดพอแห้งแล้วจะเป็นเนื้อแป้ง

6. อายแชโดว์แบบเนื้อเบค (Baked Eyeshadow)

อายแชโดว์ประเภทนี้มีความคล้ายกับแบบเนื้อแป้งแต่เนื้อจะมีความอ่อนนุ่มกว่า จะใช้แบบแห้งก็ได้ หรือจะเอาแปรงชุบหมาด ๆ แล้วแต้มเนื้ออายชาโดวก็จะให้สีที่ชัดเจนขึ้น

1. ตรวจสอบว่าโรงงานมีอยู่จริง
   ลองเช็คดูตั้งแต่เว็บไซต์ ขอมูลการ ติดต่อ ดูรูปภาพและสถานที่โรงงานว่ามีอยู่จริงหรือไม่ นอกจากนี้อย่าลืมเช็คว่าโรงงานมีการขึ้นทะเบียนการค้า DBD Registered หรือไม่เพื่อสร้างความมั่นใจไปได้อีกขั้น
2. เลือกโรงงานที่ได้มาตรฐาน
   โรงงานควรมีกระบวนการผลิตที่ได้มาตรฐานจริง ถูกต้องทั้งในด้านกระบวนการผลิต การรักษาความสะอาด และความปลอดภัย และควรมีใบรับรองมาตรฐานการผลิตที่ชัดเจน และน่าเชื่อถือได้ยกตัวอย่างเช่น GMP, ISO, Halal และ FDA
3. มีบริการแบบ One Stop Service
   โรงงานประเภทนี้จะสามารถช่วยประหยัดเวลาและลดความเสี่ยงได้มากยิ่งขึ้น แถมยังมีทัมผู้เชี่ยวชาญให้คำปรึกษาตลอดกระบวนการผลิตแบบทุกขั้นตอน แม้กระทั้งมือใหม่ที่ไม่ค่อยมีความรู้ก็สามารถสร้างแบรนด์ได้
4. มีผลงานและรีวิวจากลูกค้า
   ในส่วนนี้จะทำให้เห็นว่าทางโรงงานมีการผลิตสินค้าจริง และออกมาประสบความสำเร็จจริง ๆ ทำให้เรามั่นใจได้ในระดับหนึ่งว่าสินค้าจะออกมามีประสิทธฺภาพและได้มาตรฐาน
5. ราคาที่สมเหตุสมผล
   ควรสอบถามราคาประเมินกับหลาย ๆ โรงงานเพื่อเราจะได้เปรียบเทียบราคาและเลือกโรงงานที่มีความคุ้มค่าและราคาสมเหตุสมผลมากที่สุด

• ดูที่ลักษณะการใช้งาน

ต้องออกแบบมาเพื่อตอบโจทย์คุณลักษณะของสินค้า ยกตัวอย่างเช่นถ้าสินค้าของคุณเป็นเนื้อครีมการออกแบบบรรจุภัณฑ์ให้เป็นเนื้อกระปุกก็จะทำให้ใช้ได้ง่ายขึ้นเป็นต้น

• สร้างจุดขายด้วยความคิดสร้างสรรค์

บรรจุภัณฑ์ที่โดดเด่นก็เป็นอีกหนึ่งสิ่งที่สามารถสร้างจุดขายและดึงดูดลูกค้าได้เป็นอย่างดี โดยเฉพาะบางสินค้าที่ต้องดูจากภายนอกเท่านั้น นอกจากนี้หากสินค้าคุณมีราคาแพงกว่าของเจ้าอื่น การสร้างมูลค่าด้วยการทำคุณภาพของบรรจุภัณฑ์ให้ดี ก็ยิ่งเป็นส่วนที่จะทำให้การตัดสินใจของลูกค้ามีมากขึ้น

• ใช้ง่ายไม่ซับซ้อน

หากบรรจุภัณฑ์ของคุณใช้ยาก เดยากและซับซ้อน ก็เป็นไปได้ยากที่จะชนะใจลูกค้า ดังนั้นควรออกแบบให้ใช้ง่าย พกพาสะดวก และตอบโจทย์การใช้งายเป็นหลัก

• แข็งแรงและปลอดภัย

เป็นสิ่งที่สำคัญที่สุดเพราะถ้าหากบรรจุภัณฑ์ของเราจะดูราคาถูกไม่น่าซื้อแล้ว สินค้าของเราก้อาจจะเสียหายระหว่างการขนส่งเป็นได้ดังนั้นจึงควรให้ความสำคัญในจุดนี้ให้มาก